วันศุกร์ที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

K-9 End 2 Outs

ในชีวิตและในกีฬาเบสบอล คุณต้องการให้มันกลับมา ! เรื่องราวความรักของสองตัวละครที่รับบทโดยนักแสดงสาวแสนน่ารักซูแอ และนักแสดงหนุ่มรูปหล่ออีจองจิน นักกวีท่านหนึ่งเคยกล่าวไว้ว่า ปาร์ตี้จะสิ้นสุดลงเมื่ออายุคุณเข้า 30 ปี แต่สำหรับ "2 Outs in The Ninth Inning" กลับตรงกันข้าม เมื่อคุณอายุ 30 ปี เพิ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของปาร์ตี้มัน ๆ เท่านั้น ซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวความรักโดยเปรียบเทียบชีวิตกับการเล่นเบสบอล โดยมีพระเอก นางเอก อายุ 30 ปีเท่ากัน และทั้งคู่ก็เป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่ยังเด็ก พระเอก (ฮยอนแท) ทำงานด้านโฆษณาเคยมีรักครั้งแรกที่ไม่อาจลืม ปัจจุบันเลยหลีหญิงไปเรื่อย ๆ ไม่จริงจังกะใคร ส่วนนางเอก (ฮงนันฮี) ผู้ใฝ่ฝันอยากจะเป็นนักเขียนและเธอก็เพิ่งจะมีรักครั้งที่สองกับเด็กหนุ่ม ซึ่งอ่อนกว่าเธอถึง 8 ปี อย่างคิมจองจู และแล้วก็มีเหตุเพื่อนรักทั้งสองต้องมาอาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน อุบัติการความรักจึงเกิดขึ้นทีละเล็ก ทีละน้อย

ฮงนันฮี (รับบทโดย ซูแอ) ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะทำโฮมรันได้ในชีวิตจริง นี่เรากำลังพูดถึงหญิงสาวที่กำลังก้าวเข้าสู่วัย 30 ฮงนันฮีทราบดีว่าเธอต้องทำงานหนักเพื่อชีวิตในวันข้างหน้า แม้จะทำงานหนักแต่เธอกลับมีเงินฝากในธนาคาร เพียงน้อยนิด แถมคุณแม่จอมจู้จี้ของเธอก็บังคับให้เธอรีบแต่งงานไว ๆ อีก แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ชีวิตของเธอมีความสุขคือการได้รับการยอมรับว่า เธอคือแฟนของจองจู (รับบทโดย อีแทซอง) นัก กีฬาเบสบอลตำแหน่งพิชเชอร์ที่มีความมุ่งมั่นที่จะไปร่วมแข่งในลีกของอเมริกา แถมเขายังเป็นรุ่นน้องที่อายุอ่อนกว่าฮงนันฮีถึง 8 ปี แต่แม่ของเธอกลับไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ของลูกสาวตัวเองเท่าไหร่นัก วันหนึ่งเพื่อนในวัยเด็กของนันฮีก็ปรากฏตัวขึ้นในชีวิตของเธอ เขาก็คือ ฮยอนแท (รับบทโดย อีจองจิน) ฮยอนแทคิดว่าเขาคงไม่พบนันฮีอีกแต่ความคิดนั้นมันจะเป็นไปได้หรือ ? เพื่อน ๆ เคยบอกฮยอนแทว่าชีวิตกำลังเริ่มต้นเหมือนเบสบอลท้ายเกมที่ 9 ที่ต้องมีผู้ตีออกไป 2 คน แล้วพวกเราจะได้เห็นว่าเกมของชีวิตกำลังจะคลี่คลาย ชีวิต ก็เหมือนกีฬาเบสบอลคุณจะได้รับโอกาสครั้งที่สองเสมอเมื่อคุณแพ้เกม เหมือนตอนที่ผู้เล่นในตำแหน่งที่ 4 ตีลูกที่จุดโฮมเพลทแล้วสามารถทำโฮมรันได้ในท้ายอินนิ่งที่ 9 ก็จะเป็นผู้ชนะในเกมนั้น หรือผู้เล่นในทีมไม่เห็นด้วยกลัวว่าเกมจะเกิดเรื่องผิดพลาดและผู้เล่นใน ตำแหน่งเบส 3 ยอมที่จะไม่ทำแต้มก็สามารถเกิดขึ้นได้ เกม กีฬาเบสบอลจึงเต็มไปด้วยเรื่องน่าประหลาดใจ ที่สามารถพลิกกลับมาได้เรื่อย ๆ ในตลอดการแข่งขัน พวกเขาจะมีเวลาที่จุดโฮมเพลทแล้วทำยังไงก็ได้เพื่อจะตีลูกให้กระเด็นลงที่ พื้นสนาม หรือจะใช้วิธีตีลูกสั้นเพื่อส่งให้ผู้เล่นวิ่งกลับมาที่จุดโฮมเพลท เมื่อลูกเบสบอลลอยในอากาศพิชเชอร์ตั้งใจรับลูกเบสบอลจากผู้ตี นั่น คือกลยุทธในการเล่นเบสบอลเพื่อที่จะทำให้ชนะเกมการแข่งขัน พิชเชอร์จะต้องหัวไวกว่าผู้ตีเพราะผู้ตีจะคอยโอกาสที่จะตีลูกออกไปนอกสนาม กีฬา ในกีฬาเบสบอลนักกีฬาเบสบอล โค้ช ผู้เล่นที่ม้านั่งข้างสนาม มักจะนั่งกระดิกนิ้วเท้าเพราะพวกเขาไม่มีทางรู้ได้เลยว่าจะขว้างลูกพลาดมั้ย จะตีลูกพลาดมั้ย หรือจะรับลูกพลาดมั้ย จนอาจทำให้ทีมแพ้เกมได้ ใน ละครเรื่องนี้ก็เกี่ยวกับคนช่วงอายุ 30 ที่มีความสัมพันธ์กันในปัจจุบัน เมื่อคุณอายุ 30 ชีวิตคุณจะเริ่มต้นเหมือนกับกีฬาเบสบอล แล้วจะค้นพบว่าออก 2 ในเกมที่ 9 เป็นยังไง แน่นอนว่าพวกเขาจะมีโอกาสครั้งที่สอง ถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งสามารถตีลูกลงบนหญ้าได้ในอินนิ่งที่ 7 นั่นจะทำให้ง่ายต่อการเป็นผู้นำในการแข่งขัน แต่เรื่องนี้ก็ไม่เกิดขึ้นเสมอไปจริง ๆ แล้วมักไม่พบบ่อยนัก พวกเรามักจะพลาดโอกาสและพบความยากลำบากในชีวิต ก็เหมือนกับเกมที่กำลังจบลงอย่างช้า ๆ พวกเราต้องเหน็ดเหนื่อยจากเกมนัดพบหรือตอนที่แฟนเก่ามานอกใจจนทำให้เสียใจ สุขภาพของพวกเราก็จะแย่ลงจนใจทนไม่ได้ต้องระทมทุกข์ เหมือนกับนั่งดูเกมชีวิตในอินนิ่งที่ 9 เมื่อ ตีไม้แรก คุณจะลังเลและตีออก เมื่อตีไม้สองคุณอาจจะใจร้อนและตีออกอีกครั้ง ตอนนี้คุณจะเริ่มหายใจไม่ค่อยออกและพลังงานของคุณจะค่อย ๆ หายไป ทุกครั้งที่คุณผิดพลาด ภาพในใจคุณจะฉายความผิดพลาดนั้นซ้ำแล้วซ้ำอีก คุณจะเริ่มเครียดเมื่อต้องไปยืนที่จุดตี เพราะว่าครั้งล่าสุดนั้นพิชเชอร์ได้เล่นงานคุณเหมือนเป็นคนงุ่มง่าม แต่คุณต้องทำให้ได้ไม่ว่าคุณอยากจะทำอะไร และสิ่งนั้นจะต้องทำให้คุณไม่สูญเสียความหวัง ในเกมเบสบอลถ้าเกมยังไม่จบคุณก็ยังไม่ใช่ผู้แพ้ ในชีวิตจริงชีวิตยังไม่จบจนกระทั่งคุณตาย ผู้ตีคนต่อไปจะรู้สึกเหน็ดเหนื่อยที่จะต้องวิ่งไปยังเบสต่อไป ต้องมาดูกันล่ะว่า ผู้เล่นจะจัดการตีลูกบอลในอินนิ่งสุดท้ายอย่างไร เพราะว่าคุณไม่อาจรู้ได้ว่าใครบางคนอาจจะตีโฮมรัน เพื่อช่วยชีวิตในเกมการแข่งขันเอาไว้ได้เหมือนกับที่มีคนกล่าวว่ามันยังไม่ จบ จนกระทั่งหญิงอ้วนขึ้นมาร้องเพลง

นักแสดงนำจากซีรี่ส์ 9 End 2 Outs

ฮงนันฮี รับบทโดย ซูแอ เธอ รู้ว่าแซนต้าครอสไม่มีอยู่จริงตอนอายุ 8 ปี และอายุ 14 เธอก็เข้าใจว่าเธอไม่ได้เป็นศูนย์กลางของจักรวาลเหมือนอย่างที่เธอเคยคิด ตอนอายุ 17 ปี เธอมีนัดเดทเป็นครั้งแรก อายุ 20 ปีเธอได้รู้ว่ารักคืออะไร และอายุ 27 ปี เธอค้นพบว่าไม่มีสิ่งใดอยู่ชั่วนิรันดร์ เมื่ออายุย่างเข้า 30 ปี ร่างกายของเธอบอกกับเธอว่าหมดเวลาของการปาร์ตี้แล้วนั่นคือช่วงเวลาหนุ่มสาว ที่สูญเสียไปกับการไล่ตามความฝันที่ไร้ประโยชน์ ดังนั้นเธอจึงต้องมีเป้าหมายในชีวิต ไม่งั้นจะเหมือนการตีออก 3 ครั้งใน 1 รอบการตี อนาคตคือสิ่งที่ไม่มีใครรู้และเธอกำลังเริ่มเกิดอาการเครียดกับความหวังใน นัดเดทของเธอ นันฮีทำงานในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง แถมเงินเดือนยังน้อยนิดยิ่งกว่าพนักงานบริษัทที่เพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ ๆ บางเดือนก็ออกเงินเดือนไม่ตรงกับวันจ่ายซะงั้น นันฮีเป็นสาวทำงานมากคุณภาพ วัย 30 ปี ที่ยังโสดอยู่ เธอเป็นคนน่ารักแต่กลับไม่รู้ว่าความน่ารักของตัวเองควรจะใช้ในเวลาไหนดีถึง จะพองาม เธอเป็นคนจู้จี้ รักความสะอาด และสามารถแอ๊บแป๊วได้ทุกโอกาส เธอเป็นพวกที่ถูกหลอกง่ายเมื่อเจอคำพูดหวาน ๆ เพราะเธอเป็นพวกที่ใจดีและใจอ่อนง่าย นั่นแหละคือความเป็นตัวของเธอ แต่เธอเองจะไม่เล่าเรื่องเศร้า ๆ ในชีวิตของเธอให้คนอื่นฟัง ซึ่งก็ดีสำหรับผู้ชาย เธอเป็นคนที่ซื่อสัตย์และยืนอยู่บนความถูกต้อง นั่นทำให้เธอเป็นคนที่ใจแข็ง เธอไม่เคยค้นพบทางเดินแห่งชีวิตจากที่ที่เธออยู่ตอนนี้ ซึ่งมักจะมีแต่คนงุ่มง่ามเหมือนเครื่องจักร นันฮีพยายามที่จะแสดงว่าเธอเป็นคนรักอิสระ แต่ในชีวิตจริงกลับเอาความรู้สึกตัวเองให้คนอื่นตัดสินใจแทน เธอเป็นคนที่ชอบเข้าร่วมโปรแกรมการลดน้ำหนักให้ตัวเอง ขณะเดียวกันเธอก็ยังชอบทานอาหารขยะอยู่ไม่เลิก เธอมักจะเป็นคนที่ชอบวิตกกังวลกับชีวิตของตัวเอง ในบางครั้งเธอก็ยังชอบถามคำถามซ้ำไปซ้ำมากับเพื่อนของเธอเอง ในชีวิตของเธอ เธอเริ่มรู้สึกว่ามันไม่มั่นคง เธอมักจะแอบรักโดยที่ไม่คิดจะทำอะไรให้คืบหน้าแม้แต่น้อย แม้ว่าเธอจะมีรายได้น้อยกว่าอาชีพครู แต่เธอก็ยังเข้าร่วมโปรแกรมลดน้ำหนักจนเงินเก็บหมดไม่เหลือ แต่การเข้าโปรแกรมลดน้ำหนักก็ช่วยให้เธอดูสวยและดูน่ารักน่าทะนุถนอม แม้ว่าเธอจะกล้าโต้เถียงกับคนอื่น ๆ แต่การโต้เถียงของเธอกลับไม่ทำให้อะไร ๆ ดีขึ้น เธอเป็นคนรอบคอบแต่ชอบแสดงพฤติกรรมซุ่มซ่าม แต่นั่นก็ไม่ทำให้เธอมีปัญหา เธอเข้าใกล้คำว่าผู้หญิงที่น่านัดเดท แต่เธอก็ยังไม่ถึงขั้นนั้น แม้ว่าเธอจะเป็นคนถือตัว แต่เธอก็ไม่ใช่คนที่เปิดเผย แต่มักจะชอบเก็บไว้เป็นความภูมิใจส่วนตัว เมื่อต้องเจอกับสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

พยุนฮยอนแท รับบทโดย อีจองจิน เขา เรียนรู้จากนันฮีว่าแซนต้าครอสไม่มีอยู่จริงตอนอายุ 8 ปี และอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องระหว่างขาของเพศหญิงในตอนอายุ 13 อายุ 17 ปี เขาได้รู้ว่าตัวเองเป็นชายหนุ่มรูปหล่อที่ดูดี และเขาเรียนรู้ความหมายของคำว่ารักตอนอายุ 20 ปี เขาตกหลุมรักตอนอายุ 23 ปี และเข้าใจว่าทุกสิ่งนั้นไม่นิรันดร์ตอนอายุ 27 ปี เมื่อเข้าสู่วัย 30 ปี เขาก็เข้าใจว่าเขากำลังโกหกตัวเองว่าไม่มีความรู้สึกลึกซึ้งกับนันฮี เขาสูญเสียช่วงเวลาในวัยหนุ่มสาวจากการเป็นผู้ชนะหัวใจจากคนอื่นอยู่เสมอ ซึ่งก็เหมือนกับตัวนันฮีเองเช่นกันทุกสิ่งในชีวิตของเขาดูเหมือนจะสมบูรณ์ แบบไปทุกอย่าง ชีวิตวิ่งเข้าหาตัวเขาไวเหมือนอยู่ในอินนิ่งที่ 7 เมื่อเขาเกือบที่จะชนะโดยที่ไม่มีผู้ตีในเกม แต่ก็ดันมีผู้ตีเข้ามาในชีวิต เป็นผู้หญิงคนแรกที่เขาไม่เคยได้เดทด้วย ผู้ที่ยืนพร้อมอยู่ที่จุดโฮมเพลท เมื่อเขาต้องเป็นพิชเชอร์เขาจะระมัดระวังที่เรียนรู้ในการเล่น เขาขว้างบอลด้วยความรวดเร็วโดยที่กัดฟันไว้แน่น และจึงขว้างลูกบอลผ่านหัวของเขาไป มีคนดูอยู่เต็มสนามกีฬา ลูกบอลกระเด็นออกไปด้านนอกสนามและทำโฮมรัน เขารู้ว่ามันอาจจะฟลุคและเขาก็จับไม้เบา ๆ แล้วจึงโฟกัสไปที่การตีครั้งต่อไป แต่เขาก็สามารถทำโฮมรันต่อเนื่องกันได้ถึง 3 ครั้งติด ๆ เขาจะหาวเมื่อลูกบอลบินลอยออกไปนอกเขตรั้ว หลังจากนั้นเขาจะล้มตัวลงกองอยู่บนเนินดิน ตั้งแต่เกมนั้นเขาก็ไม่เคยรู้จักคำว่าล้ม โดยพื้นฐานเขาเป็นชายหนุ่มที่นิสัยดี เขาเป็นคนที่มีอารมณ์ขัน อบอุ่น และวางตัวดี เขาคือชายที่สาว ๆ หลายคนอยากให้เข้ามาเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอ จำนวนคนที่เข้ามาเดทกับเขาก็ไม่มีที่สิ้นสุด ด้วยท่าทางที่ดูดีเขาจึงยังดูร่างกายแข็งแรงแม้ว่าจะอายุ 30 ปีก็ตาม เมื่อเขาจ้องตามองผู้หญิง เขาก็มักจะได้เดทกับเธอ นั้นคือชีวิตของเขาที่เป็นอยู่

คิมจองจู รับบทโดย อีแทซอง เขา เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย และเป็นพิชเชอร์ให้กับทีมเบสบอลของมหาวิทยาลัย เขาเป็นนักกีฬาจึงทำให้ผิวของเขาเป็นสีแทน แถมยังมีร่างกายที่แข็งแรง เขาเป็นคนที่จริงใจ และเป็นเด็กหนุ่มที่เปี่ยมไปด้วยพลัง เขามีใจให้กับนันฮี เขาพบนันฮีครั้งแรกที่สถาบันสอนภาษาอังกฤษ และตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกพบ แต่นันฮีปฎิเสธที่จะคบกับเขา เขาจึงติดตามนันฮีไปทุกที่ แม้ว่านันฮีจะใจแข็งไม่รับเดทกับเขาก็ตาม เขายิ้มไม่หุบและวิ่งไปยังฝูงชน หลังจากตีลูกเบสบอลจนทำให้ทีมชนะ เขาดึงตัวนันฮีที่กำลังนั่งดูอยู่ตรงที่นั่งลงมา แล้วจับเธอแบกไว้บนไหล่ จากนั้นจึงวิ่งรอบสนามเบสบอลเหมือนคนบ้าต่อหน้าผู้คนที่กำลังนั่งชมกีฬาอยู่ ในสนามเบสบอล ไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอกที่ไม่ตกหลุมรักกับผู้ชายที่ทำแบบนี้กับเธอ เขาตกหลุมรักกับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่าเขา 8 ปี เพื่อนบางคนเรียกเขาว่าคนบ้า และหลายคนบอกว่าเขาคือชายในฝัน แต่ทั้งหมดนี้ก็ขึ้นอยู่กับนันฮี หรือว่าเขาจะเป็นคนบ้าจริง ๆ จองจูและนันฮีนั้นมีความสัมพันธ์แบบที่น่าสงสาร คุณอาจกำลังคิดแบบนั้น พวกเขาดูเหมือนจะไปได้ดีในทุก ๆ สิ่ง แต่ภายนอกกลับดูว่างเปล่า จองจูเป็นแบบฉบับของเด็กหนุ่มที่ตกหลุมรักกับสาวที่อายุมากกว่าตัวเอง เขาเป็นเด็กที่ใจร้อนโมโหง่าย พร้อมที่จะต่อสู้ เขาพิสูจน์ว่าแม้ร่างกายจะแข็งแรงแต่สมองกลับตรงกันข้าม เขาเป็นคนที่มีไอคิวไม่ค่อยดี เขาอ่านภาษาจีนไม่ออกยกเว้นแค่ตัวอักษรจีนที่อยู่ในชื่อของเขาเท่านั้นที่ เขาสามารถอ่านได้ เขาต้องเรียนภาษาอังกฤษอย่างหนัก ตั้งแต่ที่เขาไม่สนใจว่าคนอื่นจะคิดยังไงกับเขา เขาไม่กลัวการพูดภาษาอังกฤษผิดในชั้นเรียนท้ายที่สุดภาษาอังกฤษก็กลายเป็น เรื่องง่ายสำหรับเขา เขาฝึกฝนอย่างหนักเพื่อตามหาความฝันที่จะได้ไปเล่นเบสบอลในลีกใหญ่ ๆ สักวัน

ยูนซองอา รับบทโดย ฮวังจีฮยอน ธอคือ นักเล่นกีต้าร์ที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศตั้งแต่ยังเด็ก เพราะเธอต้องตามพ่อของเธอที่เป็นนักการทูตไปยังที่ต่าง ๆ เธอเรียนรู้การเล่นกีต้าร์ที่ประเทศสเปน ตอนเธออายุได้ 5 ปี เธอชอบแสดงแดด สายลม โลก และท้องฟ้า เธอมียิ้มที่สดใสดั่งแสงแดดยามเช้าที่กระทบลงบนผิวหญ้า เมื่อเธอมีความสุขหรืออยู่ในช่วงเวลาที่ดีเธอจะปลดปล่อยตัวเองไปกับความสนุก ทำให้เธอมีอิสระต่อความรู้สึก แต่เธอมักจะทำตัวไม่ถูกเมื่อต้องตัดสินใจกะทันหัน เธอเป็นคนที่โกรธง่าย เธอจะโชว์การเล่นกีต้าร์ จนทำให้ผู้ชมตกตะลึงกับความสามารถพิเศษและเคลิบเคลิ้มไปกับพรสวรรค์ของเธอ เธอเป็นคนที่มีจิตใจเข้มแข็ง แต่งตัวหรู และทำให้ผู้คนแปลกใจเมื่อได้พบกับเธอ แต่ตัวของซองอาเองจะเป็นคนที่แคร์ความรู้สึกที่จะกลับเข้ามาหาเธอมาก เมื่อเธอเริ่มมีเดทกับฮยอนแท เธอให้สัญญากับเขาว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญการเล่นกีต้าร์ให้ได้ในอนาคต เธอและฮยอนแทเป็นคู่รักที่ทะเลาะกันบ่อย เธอจึงตัดสินใจยกเลิกสัญญากับเอเจนซี่ โดยปฎิเสธที่จะไม่ไปแสดงโชว์ที่ประเทศสเปน เธอไม่เคยฝันว่าจะกลายเป็นนักกีต้าร์ที่มีชื่อเสียง เมื่อตอนเธอยังเด็กเธอเล่นกีต้าร์เพราะความชอบส่วนตัวเท่านั้น "กีต้าร์ของฉันจะอยู่ข้างกายฉัน และฉันจะเล่นมัน เมื่อฉันรู้สึกว่าอยากที่จะเล่น ในเวลานี้ฉันอยากอยู่กับคุณ เพระว่ามันทำให้ฉันมีความสุข" ฮยอนแทตอนอายุ 24 ปี เป็นตอนที่เขาเห็นคุณค่าของซองอาที่รู้สึกกับเขา แต่เขากลับรู้สึกไม่สบายใจเมื่อมีเธอเคียงข้าง ซองอาบอกกับฮยอนแทว่า เธอต้องเสียสละอาชีพของเธอเพื่อที่จะได้อยู่กับเขา แต่ฮยอนแทกลับคิดว่าใจของซองอาเปลี่ยนไปและหนีเขาไปได้ในชั่วพริบตา และคำทำนายของฮยอนแทก็กลายเป็นจริงขึ้นมา

ภาพประกอบซีรี่ส์ 9 End 2 Outs

ที่มา mono2u.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น